Thursday, June 12, 2014

ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า (เอเฟซัส 2:8-10)


เช้านี้ ประโยคหนึ่งที่ย้ำเตือนผมอยู่ซ้ำๆ ก็คือ

"ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า "
"ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า "
"ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า "

หลายครั้งที่ตัวเรามักจะทะนงในความเก่งกาจ ในความเฉลียวฉลาด หรือในความสามารถของเราเอง ในการแก้ไขปัญหา เอาชนะอุปสรรค แต่เราลืมไปว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีนั้น มาจากพระเจ้า!!

การที่พระคำเน้นย้ำว่า ความรอดไม่ใช่มาจากการกระทำ ก็เพื่อ ไม่ให้ใคร "อวด" ได้

ถ้ามาจากการกระทำ และเราใช้บรรทัดฐานอย่างใดอย่างหนึ่งวัด


  • ถ้าเอาความร่ำรวยเป็นบรรทัดฐาน คนยากจนคงไม่มีสิทธิ์ได้รับความรอด
  • ถ้าเอาความเฉลียวฉลาดเป็นบรรทัดฐาน คนโง่ คนด้อยการศึกษา คงไม่มีสิทธิ์ได้รับความรอด
  • ถ้าเอาหน้าตา,ฐานะทางสังคมเป็นบรรทัดฐาน คนด้อยโอกาสทางสังคม คงไม่มีสิทธิ์ได้รับความรอด


เพราะฉะนั้น ขอย้ำว่า

"ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า "

เพราะอะไร? คำตอบอยู่ในข้อที่ 10 แล้วครับ

เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี :)

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

*********************************************

เอเฟซัส 2:8-10

8 เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 

9 ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้

10 เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม

Wednesday, April 16, 2014

"กล่าวโทษ" (เฝ้าเดี่ยว 17 เมษายน 2557)



คำๆ หนึ่งที่พระเจ้าย้ำเตือนผมวันนี้ก็คือคำว่า "กล่าวโทษ" 

เป็นเรื่องง่ายที่เราจะบอกว่า "เราดี คนอื่นเลว" หรือ "เราเลวก็จริง แต่คนอื่นเลวกว่า" 

ในความเป็นจริงแล้ว พระเจ้าไม่เคยให้สิทธิ์เราในการตัดสินผู้อื่น เพราะการตัดสินนั้นเป็นสิทธิอำนาจของพระองค์เพียงผู้เดียว เราแต่ละคนเป็นแค่บ่าว บ่าวจะตัดสินบ่าวกันเองไม่ได้

หากเราเจอพี่น้องที่กำลังผิดพลาดหรือทำผิดบาป ให้เราสำแดงความรักแก่เขา ตักเตือนเขาด้วยความรัก (หากเราสามารถทำได้) ส่วนสิ่งที่เขาทำผิดนั้น พระเจ้าจะเป็นผู้ตัดสินเอง :)

โรม 14:13 ดัง‍นั้น​อย่า​ให้​เรา​กล่าว​โทษ​กัน​และ​กัน​อีก​เลย แต่​จง​ตัด‍สิน​ใจ​ดี‍กว่า​ว่า​จะ​ไม่​วาง​สิ่ง​ซึ่ง​ทำ​ให้​พี่‍น้อง​สะดุด หรือ​สิ่ง​กีด‍ขวาง​ทาง​ของ​เขา

โรม 14:4 ท่าน​เป็น​ใคร จึง​กล่าว​โทษ​บ่าว​ของ​คน​อื่น? บ่าว​คน​นั้น​จะ​ตั้ง‍มั่น​หรือ​จะ​ล่ม‍จม​ก็​สุด​แล้ว​แต่​นาย​ของ​เขา และ​เขา​จะ​ตั้ง‍มั่น​แน่‍นอน เพราะ‍ว่า​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ทรง​สามารถ​ให้​เขา​ตั้ง‍มั่น​ได้

Sunday, January 26, 2014

เฝ้าเดี่ยวประจำวัน 27 มกราคม 2557


หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่า ผู้ปกครองนิตย์ดา เจนวาณิชย์ ได้จากเราไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว..

แน่นอนว่า ความเศร้าโศกเสียใจเมื่อรู้ว่า เราได้สูญเสียคนที่เรารัก เกิดขึ้นกับลูกหลาน ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ และคนอีกมากมายที่รู้จักท่าน

แต่อีกด้านหนึ่งก็ได้คิดใคร่ครวญว่า นี่คือเวลาที่ท่านได้พักสงบอย่างแท้จริง ท่านได้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างเต็มกำลัง และพระองค์ทรงรู้ว่า หน้าที่การงานของท่านบนโลกนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ผมเชื่อว่า ชื่อของท่าน จะตราตรึงอยู่ในจิตใจเราทุกคน และท่านจะได้รับการระลึกถึงอยู่เสมอไป...

คำถามที่เกิดกับผมก็คือ เมื่อเราจากไป เราอยากให้คนข้างหลังนั้นจดจำเราในแบบไหน? คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ให้เราเร่งทำการดีทุกอย่างเพื่อพระองค์ในวันนี้

"เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​พวก‍ท่าน​ว่า ท่าน​จะ​ร้อง‍ไห้​และ​คร่ำ‍ครวญ แต่​โลก​จะ​ชื่น‍ชม​ยินดี พวก‍ท่าน​จะ​เป็น​ทุกข์ แต่​ความ​ทุกข์​ของ​ท่าน​จะ​กลับ‍กลาย​เป็น​ความ​ชื่น‍ชม​ยินดี" (ยอห์น 16:20)

Wednesday, January 8, 2014

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 9 มกราคม 2557

สิ่งที่พระองค์ย้ำผมในเช้าวันนี้ก็คือ "พระเจ้าทรงอยู่ใกล้"

จริงๆ แล้วพระองค์อยู่เคียงข้างเราเสมอ แต่หลายครั้งเรากลับมองไม่เห็นพระองค์

เพราะบางทีเราปล่อยให้ "ปัญหา" มันใหญ่ขึ้นๆ

แต่ปัญหาไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดปิดกั้นเรากับพระองค์

บางครั้งปัญหามันก็เล็ก แต่แค่มันปิดตาของเราทั้งสองข้างเท่านั้นเอง

ทำให้เรารู้สึกว่า ทุกข์ของเรานั้นแสนจะยิ่งใหญ่เหลือเกิน

เมื่อเปิดตา เปิดใจ มองทะลุปัญหา แล้วคุณจะรู้ว่า ความทุกข์ของคุณมันยังเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับความทุกข์ที่หลายคนบนโลกนี้เผชิญอยู่

 

เมื่อ​ประทับ​ที่​โต๊ะ​อาหาร​กับ​พวกเขา พระองค์​ทรง​หยิบ​ขนมปัง ขอ​พระพร แล้ว​ทรง​หัก​ส่ง​ให้​เขา ตา​ของ​เขา​ทั้งสอง​ก็​เปิด​ออก​และ​เขา​ก็​จำ​พระองค์​ได้ แล้ว​พระองค์​ก็​อันตรธาน​ไป​จาก​เขา (ลูกา 24:30, 31 THSV11)

 

Friday, January 3, 2014

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 3 มกราคม 2557

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมในวันนี้ก็คือ "ความพยายามในการเข้าใกล้พระเจ้า"

แม้ว่าศักเคียสเป็นคน "ตัวเตี้ย" แต่เขาก็ไม่เคยเอาอุปสรรคนี้ในการ "พยายาม" เข้าถึงพระเยซู

เราเคยแอบคิดเข้าข้างตัวเองไหมว่า "เพราะเราอ่อนแอ ทำให้เราไม่สามารถที่เข้าเฝ้าพระองค์ได้" หรือ "เพราะเราเป็นคนบาป ทำให้เราไม่สามารถเข้าหาพระเจ้าได้"

นั้นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง การเดินในทางของพระเจ้า เราต้องลงทุนที่จะ "ทำอะไรสักอย่าง" เพื่อเป็นการแสดงว่า เราอยากจะเข้าใกล้พระองค์

ขอให้เรามีใจกล้าที่จะเข้าใกล้พระองค์นะครับ

 

มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ศักเคียส​อยู่​ที่​นั่น เขา​เป็น​นายด่านภาษี​และ​เป็น​คนมั่งมี เขา​พยายาม​จะ​ดู​ว่า​พระเยซู​เป็น​ใคร แต่​คน​มาก​จึง​มอง​ไม่​เห็น เพราะ​เขา​เป็น​คนเตี้ย เขา​จึง​วิ่ง​ไป​ข้างหน้า ปีนขึ้น​ต้นมะเดื่อ​เพื่อ​จะ​ได้​มองเห็น​พระองค์ เพราะว่า​พระองค์​กำลัง​จะ​เสด็จ​ผ่าน​ทาง​นั้น (ลูกา 19:2-4 THSV11)

 

Thursday, January 2, 2014

เฝ้าเดี่ยวประจำวัน 2 มกราคม 2557

สิ่งที่พระเจ้าย้ำเตือนผมวันนี้ก็คือ "อย่าเผลอเป็นฟาริสี"

 

หลายครั้งเราก็เผลอมั่นใจใน "ความดี" ของตัวเอง

และเราก็เผลอกล่าวโทษ "ความผิด" ของคนอื่น

เราควรระมัดระวังตัวเสมอว่า เราไม่มีสิทธิ์ ตัดสินใคร

ไม่ว่าทางคำพูด การกระทำ หรือความคิด

พระเจ้าเท่านั้นที่จะตัดสิน เราและคนอื่นได้ครับ :)

 

คน​ที่​เป็น​ฟาริสี​นั้น​ยืน​อยู่​คน​เดียว​อธิษฐาน​ว่า ‘ข้าแต่​พระเจ้า ข้าพระองค์​ขอบพระคุณ​พระองค์​ที่​ข้าพระองค์​ไม่​เหมือน​คนอื่น​ที่​เป็น​คน​ฉ้อโกง เป็น​คน​อธรรม และ​เป็น​คน​ล่วงประเวณี และ​ไม่​เหมือน​คนเก็บภาษี​คนนี้ (ลูกา 18:11 THSV11)

 

Tuesday, December 31, 2013

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2556 (ลูกา 16)

สิ่งที่พระเจ้าให้ข้อคิดขอผมในวันสิ้นปี 2556 ก็คือ คำถามที่ว่า "เราจะรับใช้ใคร?"

"พระเจ้า" หรือ "เงินทอง"

การแสดงออกในชีวิตของเรา จะเป็นตัวบอกว่า เราจะรับใช้ใคร และมันจะมีผลที่แตกต่างกันเป็นอย่งมากในบั้นปลาย

เราเลือกทั้งสองอย่างไม่ได้

ขอให้ปีใหม่นี้เราเลือกได้อย่างถูกต้องนะครับ

สุขสันต์วันปีใหม่ครับ :)

ไม่มี​ผู้ใด​เป็น​ข้าสองเจ้า​บ่าวสองนาย​ได้ เพราะ​จะ​เกลียดชัง​นาย​คน​หนึ่ง​และ​จะ​รัก​นาย​อีกคนหนึ่ง หรือ​จะ​นับถือ​นาย​คน​หนึ่ง​และ​จะ​ดูหมิ่น​นาย​อีกคนหนึ่ง ท่าน​จะ​รับใช้​พระเจ้า​และ​เงินทอง​พร้อมกัน​ไม่ได้” (ลูกา 16:13 THSV11)