เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2556 (ลูกา 16)

สิ่งที่พระเจ้าให้ข้อคิดขอผมในวันสิ้นปี 2556 ก็คือ คำถามที่ว่า "เราจะรับใช้ใคร?"

"พระเจ้า" หรือ "เงินทอง"

การแสดงออกในชีวิตของเรา จะเป็นตัวบอกว่า เราจะรับใช้ใคร และมันจะมีผลที่แตกต่างกันเป็นอย่งมากในบั้นปลาย

เราเลือกทั้งสองอย่างไม่ได้

ขอให้ปีใหม่นี้เราเลือกได้อย่างถูกต้องนะครับ

สุขสันต์วันปีใหม่ครับ :)

ไม่มี​ผู้ใด​เป็น​ข้าสองเจ้า​บ่าวสองนาย​ได้ เพราะ​จะ​เกลียดชัง​นาย​คน​หนึ่ง​และ​จะ​รัก​นาย​อีกคนหนึ่ง หรือ​จะ​นับถือ​นาย​คน​หนึ่ง​และ​จะ​ดูหมิ่น​นาย​อีกคนหนึ่ง ท่าน​จะ​รับใช้​พระเจ้า​และ​เงินทอง​พร้อมกัน​ไม่ได้” (ลูกา 16:13 THSV11)

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2556 (ลูกา 15)

สิ่งหนึ่งที่พระเจ้าย้ำเตือนผมในวันนี้ ก็คือ "ไม่มีใคร ไม่สมควร จะได้ความรักของพระเจ้า"

เราอาจจะเคยได้ยินคำพูดเก๋ๆ ว่า "รักใครไม่ได้อีกแล้ว" แต่คำนี้ไม่มีสำหรับพระองค์

ความรักของพระองค์

• ยิ่งใหญ่
• อดทนนาน
• มีมากมายมหาศาล
• และเพียงพอสำหรับ "ทุกคน" บนโลกนี้

หากคุณรู้สึกว่า ใครบางคนไม่รักคุณ ขอให้คุณรู้ว่า พระองค์ยังคงรักคุณอยู่เสมอ

 

"แล้ว​เขา​ก็​ลุกขึ้น​ไป​หา​บิดา แต่​เมื่อ​เขา​ยัง​อยู่​แต่​ไกล บิดา​ก็​เห็น​เขา​และ​มี​ใจ​สงสาร จึง​วิ่ง​ออก​ไป​กอด​คอ​และ​จูบ​แก้ม​ของ​เขา" (ลูกา 15:20 THSV11)

 

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2556 (ลูกา 14)

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมวันนี้คือ "ให้" และ "แลกเปลี่ยน"

เวลาที่ทำต้องกระทำอะไรให้ผู้อื่น เรา "ให้" หรือ "แลกเปลี่ยน"

เราทำดีต่อผู้อื่นแล้ว เรามีความสุขหรือเปล่า? สุขที่ได้ให้

หรือหวังผลที่ดีจากอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคำขอบคุณ หรือของตอบแทนที่ที่มีค่าพอๆ กัน หรือได้รับคำชมจากคนอื่น

ขอให้เรา เลือกที่จะ "ให้" มากกว่า "แลกเปลี่ยน" นะครับ :)

ลูกา 14:12-14 แล้ว​พระเยซู​ตรัส​กับ​คน​ที่​เชิญ​พระองค์​ว่า “เมื่อ​ท่าน​จะ​จัดการเลี้ยง​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เวลา​กลางวัน​หรือ​เวลา​เย็น​ก็​ตาม อย่า​เชิญ​เฉพาะ​เพื่อนๆ หรือ​พี่น้อง หรือ​ญาติๆ หรือ​บรรดา​เพื่อนบ้าน​ที่​มั่งมี คาด​ว่า​พวกเขา​จะ​เชิญ​ท่าน​กลับคืน แล้ว​ท่าน​จะ​ได้​รับ​การ​ตอบแทน แต่​เมื่อ​ท่าน​จัดการเลี้ยง​นั้น จง​เชิญ​คน​จน คน​พิการ คนง่อย และ​คนตาบอด แล้ว​ท่าน​จะ​เป็น​สุข เพราะว่า​เขาทั้งหลาย​ไม่มี​อะไร​จะ​ตอบแทน​ท่าน ส่วน​ท่าน​จะ​ได้​รับ​การ​ตอบแทน​เมื่อ​คน​ชอบธรรม​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย”

 

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2556 (ลูกา 9)

คำหนึ่งที่พระเจ้าสอนผมวันนี้ก็คือคำว่า "รับกางเขนของตนแบกทุกวัน"

พระเยซูตรัสว่า ถ้า​ใคร​ต้อง‍การ​จะ​มา​ติด‍ตาม​เรา ให้​คน​นั้น​ปฏิ‌เสธ​ตน‍เอง รับ​กาง‌เขน​ของ​ตน​แบก​ทุก‍วัน​และ​ตาม​เรา​มา

"รับกางเขนของตน" >> เราผู้เชื่อแต่ละคนจะมี "กางเขน" ที่เราต้อง "แบก" ที่ไม่เหมือนกัน เปรียบเสมือนภาระหน้าที่ การดำเนินชีวิตของเราที่อยู่ในทางของพระเจ้านั้น เรามีความรับผิดชอบที่ไม่เหมือนกัน

หากคุณทุกข์ใจ ท้อใจ อย่ามัวแต่ท้อแท้ รอคำอธิษฐานจากผู้อื่น แต่คุณต้อง "เข้มแข็ง" ด้วยกำลังที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า และมันเป็นเรื่องระหว่าง "คุณ" กับ "พระเจ้า" เท่านั้นครับ

"แบกทุกวัน" >> การดำเนินชีวิตให้เป็นที่ชอบพอพระทัยพระองค์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป สิ่งหนึ่งที่ผมได้ก็คือ เราต้อง แบก-ทุก-วัน

เราต้องมีชีวิตที่อยู่ในทางของพระองค์ "อยู่ทุกวัน"
มิใช่ว่าวันนี้คุณมีความสุข คุณรักพระองค์ คุณถึงเชื่อฟังพระองค์ คุณเลยดำเนินชีวิตตามพระทัยพระองค์

พออีกวันคุณรู้สึกไม่มีความสุข คุณกลับรู้สึกว่า การดำเนินชีวิตตามพระทัยพระเจ้านั้นเป็นเรื่องยาก

ผมอยากหนุนใจว่า ไม่ว่าคุณจะสุขหรือทุกข์อย่างไร "อย่าลืมกางเขนของคุณ" นะครับ

ลูกา 9:23 พระ‍องค์​จึง​ตรัส​กับ​พวก‍เขา​ทุก‍คน​ว่า “ถ้า​ใคร​ต้อง‍การ​จะ​มา​ติด‍ตาม​เรา ให้​คน​นั้น​ปฏิ‌เสธ​ตน‍เอง รับ​กาง‌เขน​ของ​ตน​แบก​ทุก‍วัน​และ​ตาม​เรา​มา

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2556 (ลูกา 8)

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมในวันนี้ก็คือ "จงเป็นดินดีอยู่เสมอ"

เมื่อพระเยซูเล่าถึงอุปมาดินสี่ชนิด ผมมักจะนึกถึงแต่การประกาศข่าวประเสริฐให้กับผู้ที่ยังไม่เชื่อ

แต่วันนี้พระเจ้าสอนผมด้วยคำว่า "จงเป็นดินดีอยู่เสมอ"

เราต้องให้ใจของเราไม่มีหินผสมอยู่ในดิน

เราต้องคอยดูว่า มีเมล็ดต้นหนามตกลงมาบนดินในใจของเราหรือไม่

เราต้องคอยบำรุงดินในใจของเราอยู่เสมอ และ

เราต้องหมั่นไถพรวนดินในใจของเราอยู่เสมอ 

เพื่อรอคอยพระวจนะคำใหม่ๆ จากพระองค์อยู่เสมอ เมื่อเวลาที่เมล็ดแห่งพระคำตกลงมาในใจของเราเมื่อไหร่ ก็จะพร้อมเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ มีประโยชน์แก่คนอีกมากมายครับ

ลูกา 5 : 5-8 “มี​คน​หนึ่ง​ออก​ไป​หว่าน​เมล็ด‍พืช เมื่อ​เขา​หว่าน เมล็ด​ก็​ตก​ตาม​หน‍ทาง จึง​ถูก​เหยียบ‍ย่ำ และ​นก​ใน​อากาศ​ก็​มา​กิน​เสีย บ้าง​ตก​ที่​หิน เมื่อ​งอก‍ขึ้น​แล้ว​ก็​เหี่ยว‍แห้ง​ไป​เพราะ​ที่​ไม่​ชื้น บ้าง​ตก​ที่​กลาง​ต้น‍หนาม ต้น‍หนาม​ก็​งอก‍ขึ้น​มา​ปก‍คลุม บ้าง​ตก​ที่​ดิน​ดี จึง​งอก‍ขึ้น​เกิด‍ผล​ร้อย‍เท่า” เมื่อ​พระ‍องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว จึง​ทรง​ร้อง‍บอก​ว่า “ใคร​มี​หู จง​ฟัง​เถิด”

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2556 (ลูกา 5)

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมวันนี้ก็คือเรื่อง "ความเคยชินกับสิ่งเก่าๆ"

คนเรามักจะมี

• ความพึงพอใจกับสิ่งเดิมๆ สิ่งเก่าๆ 
• รู้สึกมั่นใจกับสิ่งเดิมๆ ความเชื่อเดิมๆ
• รู้สึกว่าสิ่งใหม่ๆ นั่นสู้สิ่งเก่าๆ ไม่ได้

ดั่งเช่นพวกฟาริสีที่มักจะหาเรื่องตำหนิพระเยซูในเรื่องต่างๆ เช่น การคบกับคนเก็บภาษี, การถืออดอาหาร เพราะพวกเขา "ความเคยชินกับสิ่งเก่าๆ" และพร้อมที่จะปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ที่พระเยซูทรงกระทำ แม้ว่าสิ่งนั้นจะดีกว่าสิ่งเดิมก็ตาม

อย่าให้เราติดอยู่กับ "สิ่งเดิมๆ ตัวตนเดิมๆ" นะครับ เปิดใจยอมรับ "สิ่งใหม่ๆ" ที่ดีที่สุดจากพระเจ้านะครับ

ลูกา 5:39 ไม่‍มี​ใคร​เมื่อ​ดื่ม​เหล้า‍องุ่น​หมัก​เก่า​แล้ว จะ​อยาก​ได้​เหล้า‍องุ่น​หมัก​ใหม่ เพราะ​เขา​ย่อม​จะ​กล่าว​ว่า ‘ของ‍เก่า​นั้น​ดี​กว่า’

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2556 (ลูกา 4)

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมวันนี้ก็คือ "การล่อลวงของมาร"

แม้แต่มารก็ยังรู้ข้อพระคัมภีร์

มันอาจจะหลอกให้เราเข้าใจผิดว่า เรื่องบางเรื่อง เราสามารถทำได้ พระเจ้าไม่ว่าเรา

แต่ความเป็นจริงแล้ว มารมักจะบอกเราไม่หมด ไม่บอกถึงความหมายที่แท้จริงของเรื่องนั้น และหลายครั้ง เราอาจจะทำผิดบาปความผลั้งเผลอหรือความประมาทได้

แม้มารจะทดลองพระเยซูถึง 3 ครั้ง และแต่ละครั้งก็เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่พระเยซูก็เอาชนะได้ด้วยการยึดในพระคำของพระเจ้าทุกครั้ง

วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ ติดสนิทพระเจ้า หนึ่งในหนทางการติดสนิทกับพระองค์ก็คือ "การอ่านพระคัมภีร์" และ "การเฝ้าเดี่ยว" ครับ 


ลูกา 4:9-12 แล้ว​มาร​จึง​นำ​พระ‍องค์​ไป​ที่​กรุง‍เย‌รู‌ซา‌เล็ม และ​ให้​พระ‍องค์​ประ‌ทับ​อยู่​ที่​ยอด​หลัง‍คา​พระ‍วิหาร แล้ว​พูด​กับ​พระ‍องค์​ว่า “ถ้า​ท่าน​เป็น​พระ‍บุตร​ของ​พระ‍เจ้า จง​กระ‌โจน​ลง‍ไป​จาก​ที่​นี่"

เพราะ​พระ‍คัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า ‘พระ‍เจ้า​จะ​รับ‍สั่ง​เรื่อง​ท่าน​ต่อ​บรร‌ดา​ทูต‍สวรรค์​ของ​พระ‍องค์ ให้​ป้อง‍กัน​รักษา​ท่าน​ไว้ และ เหล่า​ทูต‍สวรรค์​จะ​เอา​มือ​ประ‌คอง​ชู​ท่าน ไม่‍ให้​เท้า​ของ​ท่าน​กระ‌ทบ​หิน ’

พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​ตอบ​มาร​ว่า “มี​คำ​กล่าว​ไว้​ว่า ‘อย่า​ทด‍ลอง​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ผู้​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​ท่าน’”

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2556 (ลูกา 3)

สิ่งที่ผมได้จากการเฝ้าเดี่ยววันนี้ก็คือประโยคที่ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ที่‍รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ‍ใจ​ท่าน​มาก”

มีความจริงแท้แน่นอนอยู่ 2 อย่างก็คือ

1. "ท่านเป็นบุตร" >> เมื่อเรากลับใจใหม่ เราก็กลายเป็นลูกของพระองค์
2. "ที่รักของเรา" >> เพราะพระเจ้ารักเรามาก เราจึงได้มีโอกาสรู้จักและเป็นลูกของพระองค์

แต่คำสุดท้ายก็คือ "เรา​ชอบ‍ใจ​ท่าน​มาก" นั้น เป็นคำที่เราต้องคอยถามตัวเราเองเสมอ เวลาเราจะทำอะไรก็ตามว่า

"สิ่งที่เราคิดหรือกำลังจะทำนั้น เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าหรือไม่?"

ขอให้คำถามนี้อยู่กับเราเสมอนะครับ :)


ลูกา 3:22 และ​พระ‍วิญ‌ญาณ‍บริ‌สุทธิ์​ทรง​รูป‍สัณ‌ฐาน​เหมือน​นก‍พิราบ​เสด็จ​ลง‍มา​อยู่​กับ​พระ‍องค์ และ​มี​พระ‍สุร‌เสียง​มา​จาก​ฟ้า‍สวรรค์​ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ที่‍รัก​ของ​เรา เรา​ชอบ‍ใจ​ท่าน​มาก”

อ่านพระพรประจำวันได้ที่ http://mailoflove.blogspot.com/

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2556 (มาระโก 16)

สิ่งที่พระเจ้าสอนผมในเช้าวันนี้ก็คือ "หน้าที่จริงๆ ของเรา"

ในมาระโก16:15-16 พระ‍องค์​ตรัส​สั่ง​พวก​สาวก​ว่า “พวก‍ท่าน​จง​ออก​ไป​ทั่ว‍โลก ประ‌กาศ​ข่าว‍ประ‌เสริฐ​แก่​มนุษย์​ทุก​คนใคร​เชื่อ​และ​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​ก็​จะ​รอด แต่​ใคร​ไม่​เชื่อ​จะ​ต้อง​ถูก​ลง‍โทษ

บางครั้งเราก็ลืม "หน้าที่จริงๆ ของเรา" บางครั้งเราก็มัวแต่สาละวนในเรื่องการทำงาน การหาเงินเลี้ยงชีพ การดูแลคนที่เรารักและเป็นห่วง ฯลฯ จนเอาหน้าที่จริงๆ ของเราไว้อันดับท้ายๆ

มิใช่ว่าให้เราเอาแต่ประกาศข่าวประเสริฐ จนไม่สนใจเรื่องอื่นๆ

แต่ให้เราเอา "ใจ" ของเราไว้กับพระองค์ ทำทุกอย่างเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ แล้วพระองค์จะทรงดูแลด้านอื่นๆ ในชีวิตของเราให้ดีที่สุดครับ

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2556 (มาระโก 15)

คำๆ หนึ่งที่พระเจ้าสอนผมในวันนี้ก็คือคำว่า "เอาใจ" 

หลายครั้งคนในสังคมต้องยอมทำอะไรสักอย่างที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเองคิดหรืออยากทำ เพราะต้องการ "เอาใจ" คนส่วนมาก

• เอาใจ เพราะไม่อยากมีปัญหา
• เอาใจ เพราะคาดหวังผลประโยชน์อื่นๆ
• เอาใจ เพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์
• เอาใจ เพราะเห็นว่าคนหมู่มากต้องการแบบนั้น

คำถามก็คือ เราควร "เอาใจ" ใคร? คนหรือพระเจ้า

จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะทำสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้พระเจ้าทรงพอพระทัย 

แต่นั้นก็มิได้หมายความว่า เราจะกระทำการใดๆ โดยปราศจากความรักต่อคนอื่น เพราะคิดแต่ว่า เพื่อพระเจ้าเท่านั้น

ทูลขอสติปัญญา เพื่อให้เราเป็นที่พอพระทัยกับพระเจ้า และอยู่อย่างสงบกับทุกคนนะครับ :)

มาระโก 15:12-15   ปี‌ลาต​จึง​ถาม​พวก‍เขา​ว่า “แล้ว​พวก‍ท่าน​จะ​ให้​เรา​ทำ​อย่าง‍ไร​กับ​คน​นี้​ที่​พวก‍ท่าน​เรียก​ว่า​กษัตริย์​ของ​พวก​ยิว?” เขา‍ทั้ง‍หลาย​ร้อง‍ตะ‌โกน​ว่า “ตรึง​เขา​ที่​กาง‌เขน” ปี‌ลาต​จึง​ถาม​ว่า “ตรึง​ทำไม? เขา​ทำ​ผิด​อะไร?” แต่​ประ‌ชา‍ชน​ยิ่ง​ตะ‌โกน​ว่า “ตรึง​เขา​ที่​กาง‌เขน” ปี‌ลาต​ต้อง‍การ​จะ​เอา‍ใจ​ฝูง‍ชน​จึง​ปล่อย​บา‌รับ‌บัส​ให้​แก่​พวก‍เขา และ​เมื่อ​ให้​โบย‍ตี​พระ‍เยซู​แล้ว จึง​มอบ​ให้​พวก‍เขา​เอา​ไป​ตรึง​ที่​กาง‌เขน

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2556 (มาระโก 14)

สิ่งที่พระเจ้าให้ผมมองเห็นจากการเฝ้าเดี่ยววันนี้ก็คือ "โปรดให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไป"

ในความเข้าใจของผม "ถ้วย" คือ "ความตาย"

คุณจะทำอย่างไรครับ ถ้าคุณรู้ว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คุณจะต้อง "ตาย" อย่าง "ทุกข์ทรมาน"

พระเยซูได้ทรงเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์แบบ ฉะนั้น "ความกลัว" ย่อมมีอยู่ในพระทัยของพระองค์อย่างล้นเหลือ เมื่อรู้ว่า ตนเองจะต้องตาย

พระองค์เลือกที่จะ "หนี" จากความตายครั้งนี้ได้ แต่พระองค์ทรงก็เลือกที่จะเดินเข้าสู่กางเขน และยอมตายอย่างทุกข์ทรมาร "เพื่อ" เราทุกๆ คนที่เป็นคนบาป

แต่คำอธิษฐานนี้ก็จบลงอย่างงดงามด้วยประโยคที่ว่า "แต่​อย่า​ให้​เป็น​ไป​ตาม‍ใจ‍ปรารถ‌นา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์ แต่​ให้​เป็น​ไป​ตาม​พระ‍ทัย​ของ​พระ‍องค์"

พระเจ้าบอกผมวันนี้ว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะสุข จะทุกข์ ขอให้เราเชื่อฟังพระองค์ เพราะพระองค์ให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีผลดีแน่นอนครับ"

มาระโก 14:36 

พระ‍องค์​ทูล​ว่า “อับ‌บา (พ่อ) ทุก‍สิ่ง​เป็น​ได้​สำหรับ​พระ‍องค์ ขอ​โปรด​ให้​ถ้วย​นี้​เลื่อน‍พ้น‍ไป​จาก​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด แต่​อย่า​ให้​เป็น​ไป​ตาม‍ใจ‍ปรารถ‌นา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์ แต่​ให้​เป็น​ไป​ตาม​พระ‍ทัย​ของ​พระ‍องค์

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2556 (มาระโก 13)

คำหนึ่งที่พระเจ้าสอนผมในวันนี้ก็คือคำว่า "จงเฝ้าระวัง"

จงเฝ้าระวัง

จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีอยู่ในช่วงนี้ ทำให้หลายๆ คนมีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่แตกต่างกัน จนหลายครั้งทำให้มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งคนที่เชื่อพระเจ้าแล้ว ทั้งคนที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า ทำให้ผมเริ่มคิดว่า "จริงๆ แล้ว เราควรจะวางตัวอย่างไรกันแน่ ในเหตุการณ์ครั้งนี้" 

• เราได้สำแดงความรักต่อผู้อื่นหรือไม่?
• เรามีความ "อดทน" ต่อการถูกยั่วยุหรือไม่?
• เราตอบสนองอย่างไร ต่อคนที่ีมีแนวคิดไม่เหมือนเรา?
• เราใช้ถ้อยคำหรือข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง หยาบคาย ขาดความสุภาพหรือไม่?
• เราเผลอปล่อยให้มารเข้ามาทำงานในจิตใจของเราหรือไม่?
• เราคิดอธิษฐานเผื่อทุกคนที่เป็นที่รักของพระเจ้าหรือไม่?

อธิษฐานขอพระเจ้า ให้เรามีท่าที่ที่ถูกต้องต่อเรื่องนี้นะครับ :)

มาระโก 13:33 จง​เฝ้า‍ระวัง​และ​อธิษ‌ฐาน เพราะ​พวก‍ท่าน​ไม่​รู้​ว่า​วัน‍นั้น​หรือ​เวลา​นั้น​จะ​มา​ถึง​เมื่อ‍ไหร่

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2556 (มาระโก 12)

สิ่งที่ผมได้จากการเฝ้าเดี่ยววันนี้ (มาระโก บทที่ 12) พระเจ้าได้สอนผมจากคำว่า "เงินถวาย"

• พระเจ้าไม่ได้อยากได้ "เงิน" ของเรา แต่พระองค์อยากได้ "ใจ" ของเรา 
• พระองค์สอนว่า ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย จะรักพระเจ้าและเงินทองทั้งสองอย่างไม่ได้
• พระเจ้าเป็นเจ้าของทุกๆ อย่าง สิ่งที่เรามี สิ่งที่เราได้ เราเป็นเพียง "คนต้นเรือน" ที่ได้รับสิทธิ์ให้ดูแลรักษาของเหล่านั้น
• เมื่อเราตาย ของทุกอย่างที่เรามีก็จะไม่เป็นของเราอีกต่อไป
• การถวาย ก็คือวิธีหนึ่งที่เราสามารถบอกกับพระเจ้าว่า เรารักพระองค์ และเรายอมมอบทุกอย่างแก่พระองค์
• การถวาย "มิใช่" การยื่นเงื่อนไขว่า ฉันให้พระองค์แล้ว พระองค์ก็ต้องตอบแทนฉันนะ 

นี่คือสิ่งที่พระเจ้าสอนผมวันนี้ครับ :)

มาระโก 12:41-44 

พระ‍เยซู​ประ‌ทับ​ตรง‍หน้า​ตู้​เก็บ​เงิน‍ถวาย ทรง​สัง‌เกต​ฝูง‍ชน​เอา​เงิน​มา​ใส่​ไว้​ใน​ตู้​นั้น และ​มี​คน​มั่ง‍มี​หลาย​คน​เอา​เงิน​มาก‍มาย​มา​ใส่ แต่​มี​หญิง‍ม่าย​ยาก‍จน​คน​หนึ่ง​เดิน​มา นาง​เอา​เหรียญ​ทอง‍แดง​สอง​อัน มี​ค่า​ประ‌มาณ​โคด‌รัน‌เทส​หนึ่ง​มา​ใส่​ไว้ พระ‍องค์​จึง​ทรง​เรียก​พวก​สาวก​มา​ตรัส​กับ​พวก‍เขา​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ว่า หญิง‍ม่าย​ยาก‍จน​คน​นี้​ใส่​ใน​ตู้​เก็บ​เงิน‍ถวาย​มาก‍กว่า​ทุก‍คน​ที่​ใส่​ไว้​นั้น เพราะ​ว่า​ทุก‍คน​ได้​เอา​เงิน​เหลือ​ใช้​ของ​พวก‍เขา​มา​ใส่ แต่​หญิง​คน​นี้​ใน​สภาพ​ที่​ยาก‍จน เอา​เงิน​เลี้ยง‍ชีพ​ทั้ง‍สิ้น​ของ​นาง​ใส่​ลง‍ไป​จน​หมด”

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 5 ธันวาคม 2556 (มาระโก 11)

สิ่งที่ผมได้จากการเฝ้าเดี่ยวในวันนี้ก็คือ คำว่า "ถ้ำของโจร"

ถ้ำของโจร

เหตุการณ์ที่พระเยซูทรงคว่ำโต๊ะ​ของ​คน​รับ​แลก​เงิน​และ​คว่ำ​ม้า​นั่ง​ของ​คน​ขาย​นก‍พิราบด้วยความโกรธ ทำให้ผมนึกภาพของพระวิหาร = คริสตจักรของเรา

เรารู้สึกอย่างไร เมื่อมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในคริสตจักร หากเราพบว่า คนบางคนใช้คริสตจักรเป็นที่...

• เจราจาธุรกิจ
• แสวงหาผลประโยชน์
• หาเงินกู้หรือหยิบยืมเงิน
• สถานที่ท่องเที่ยว จุดถ่ายภาพ
• "แอบ" กระทำความผิดบาปต่างๆ 

เราโกรธหรือไม่? หรือเรามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ที่ไหนก็มี?

ถ้าเราโกรธ เราตอบสนองเรื่องนี้อย่างไร เราขาดการสำแดงความรักหรือไม่?


ขอพระเจ้าเร้าใจของเรา ให้มีการตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างถูกต้อง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักนะครับ




มาระโก 11:15-17 เมื่อ​มา​ถึง​กรุง‍เย‌รู‌ซา‌เล็ม พระ‍องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​บริ‌เวณ​พระ‍วิหาร แล้ว​ลง‍มือ​ขับ‍ไล่​บรร‌ดา​คน​ซื้อ​ขาย​ใน​บริ‌เวณ​พระ‍วิหาร​นั้น ทรง​คว่ำ​โต๊ะ​ของ​คน​รับ​แลก​เงิน​และ​คว่ำ​ม้า​นั่ง​ของ​คน​ขาย​นก‍พิราบ ทรง​ห้าม​ใคร​ขน​สิ่ง‍ใดๆ เดิน​ลัด​บริ‌เวณ​พระ‍วิหาร พระ‍องค์​ตรัส​สอน​ว่า “มี​พระ‍วจนะ​เขียน​ไว้​ไม่​ใช่​หรือ​ว่า ‘นิ‌เวศ ของ​เรา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​นิ‌เวศ​อธิษ‌ฐาน​สำหรับ​ประ‌ชา‍ชาติ​ทั้ง‍หลาย’ แต่​ท่าน‍ทั้ง‍หลาย​ได้​ทำ​ให้​เป็น​ถ้ำ​ของ​พวก​โจร”

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2556 (มาระโก 10)

สิ่งที่ผมได้จากการเฝ้าเดี่ยววันนี้ก็คือคำว่า "กำลัง​ของ​พระ‍เจ้า"

หลายครั้งเราก็ทำอะไรด้วย "กำลังของตัวเอง" ทั้งด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ

• บางครั้งเราก็คิดว่า เรื่องบางเรื่อง เล็กน้อยมาก ใช้กำลังเราเองดีกว่า
• บางครั้งเราก็คิดว่า เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรบกวนพระเจ้าดีกว่า
• บางครั้งเราก็คิดว่า เราเก่งพอตัว ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง
• บางครั้งเราก็คิดว่า การพึ่งพาพระเจ้ามาก เราดูเหมือนคนอ่อนแอ
• บางครั้ง เราก็อาย ไม่อยากพึงพาพระองค์ เพราะเรื่องบางเรื่องอาจจะไม่ดี ไม่ถูกต้อง
• บางครั้งเราก็เผลอคิดว่า เรามีกำลังพอๆ กับพระเจ้า

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว กำลังของเรา "ด้อย" นัก อ่อนแอ ขาดความเข้มแข็ง

เป็นการง่ายที่สุดที่เราจะทำอะไรก็ตาม (ที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยนะ) ให้สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี ให้นึกถึงการพึ่งพา "กำลังของพระเจ้า" ครับ


มาระโก 10:26-27 เหล่า​สาวก​ก็​ประ‌หลาด‍ใจ​อย่าง‍ยิ่ง พูด​กัน​เอง​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ใคร​จะ​รอดได้?” พระ‍เยซู​ทอด‍พระ‍เนตร​พวก‍เขา​แล้ว​ตรัส​ว่า “ส่วน​มนุษย์​ก็​เหลือ​กำลัง​ที่​จะ​ทำ​ได้ แต่​ไม่​เหลือ​กำลัง​ของ​พระ‍เจ้า เพราะ​ว่า​พระ‍เจ้า​ทรง​ทำ​ให้​สำเร็จ​ได้​ทุก‍สิ่ง”

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2556 (มาระโก 9)

สิ่งที่ผมได้จากการเฝ้าเดี่ยววันนี้ พระเจ้าให้คำสองคำกับผมคือ "เกลือ" และ "จงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข"

เกลือ

การที่พระคุณของพระเจ้ามีให้แก่ชีวิตของเรานั้น มิใช่เพื่อประโยชน์ของเราเอง แต่พระองค์ให้ชีวิตของเรานั้นมีประโยชน์แก่คนมากมาย เปรียบเสมือนเกลือ ที่มีคุณค่าในตัวมันเพราะความเค็ม หากวันหนึ่งเกลือหมดรสเค็ม มันคงไม่มีประโยชน์กับสิ่งไหน

เหมือนชีวิตของเรา หากเรารับแต่พระพร ไม่เคยคิดจะนำสิ่งดีๆ ที่พระเจ้าให้กับชีวิตของเราไปมอบให้แก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น เมื่อวันหนึ่งโอกาสที่พระเจ้าจะใช้เราผ่านพ้นไป เราจะมานั่งเสียใจหรือไม่?

จงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

คำนี้น่าจะเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เราแต่ละคน พร้อมที่จะสร้างศัตรูได้ตลอดเวลา การอยู่ร่วมกันผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องยากอยู่แล่ว แต่การอยู่ด้วย "อย่างสงบสุข" เป็นเรื่องที่ยากกว่านั้นอีก

จงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข มิใช่การ อยู่แบบเฉยชา อะไรไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่ยุ่ง แต่เราต้องขอพระเจ้าประทานสติปัญญา ให้เราอยู่และสำแดงความรัก กับทุกคน

แม้บางครั้งความคิด แนวคิดของเขาจะไม่เหมือนกับเรา หรือเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับเขา แต่พระเจ้าก็บอกให้เรา "รัก" ทุกคน

เมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย การอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขก็จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป...

มาระโก 9:50 เกลือ​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี แต่​ถ้า​หมด‍รส‍เค็ม​แล้ว​จะ​ทำ​ให้​เค็ม​อีก​ได้​อย่าง‍ไรท่าน‍ทั้ง‍หลาย​จง​มี​เกลือ​ใน​ตัว​และ​จง​อยู่​ด้วย‍กัน​อย่าง​สงบ‍สุข